วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ภูไมท์ซัลเฟต 2

4.ใช้คลุกปุ๋ยใส่พร้อมกับปุ๋ย ใช้ปุ๋ยเคมี 5 ส่วนพรมน้ำพอชื้น แล้วเอาภูไมท์ผง, หรือซีโอไลท์-สเม็คไทต์ผง,ซีโอไลท์คาซัคสถานชนิดผง 1 ส่วนคลุกผสมให้ผงติดเม็ดปุ๋ยทุกเม็ด ช่วยทำให้ปุ๋ยกลายเป็นปุ๋ยละลายช้า. ถ้าใส่ปุ๋ยด้วยเครื่องหยอดปุ๋ยให้ใช้ไคลน็อพติโลไลท์ หรือซีโอไลท์-สเม็คไทต์ชนิดเม็ด,ซีโอไลท์คาซัคสถานชนิดเม็ดคลุกผสมปุ๋ยแล้วใส่ในเครื่องหยอดซึ่งจะหยอดไปพร้อมกับปุ๋ย ใช้ 1 ส่วนต่อปุ๋ย 5 ส่วน
5.กลไกทำให้พืชแข็งแกร่ง ภูไมท์,ซีโอไลท์-สเม็คไทต์,ซีโอไลท์คาซัคสถานและไคลน็อพติโลไลท์ เมื่อลงดิน เปียกน้ำจะปลดปล่อยซิลิก้าที่ละลายน้ำได้ออกมา ถูกพืชดูดไปพร้อมกับน้ำ. น้ำระเหยออกทางเซลผิวแต่ซิลิก้าไม่ระเหย สะสมมากขึ้นทุกทีจนตกผลึกเป็นโอปอล,ควอร์ทซ์ อยู่ตามผนังเซล,และผิวเซล แม้จะเป็นอนุภาคเล็กมากจนจะเห็นได้จากกล้องจุลทรรศน์อีเล็กตรอน, แต่ก็นับว่าเพียงพอที่จะทำให้ปากเพลี้ย และไร เจาะผิวพืชไม่สะดวก, หนอนวัยหนึ่งกัดพืชแล้วฟันจะสึกจนกัดพืชไม่ได้ ไส้เดือนฝอยเข้าพืชไม่ได้ ราเจริญไม่สะดวก. การดูดน้ำขึ้นทางรากอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใบอ่อนมีการสะสมซิลิกาที่ผิวได้อย่างรวดเร็ว.
6.ลดการสูญเสียปุ๋ย ปรกติปุ๋ยเคมีที่ขายในไทยถูกกำหนดให้ละลายทันทีทั้ง 100 % ดังนั้นถ้าฝนตกมาก, รดน้ำมาก ปุ๋ยละลายออกมาหมด, เมื่อน้ำไหลไปที่อื่นก็พาปุ๋ยไปด้วย ประมาณว่าปุ๋ยอาจถูกชะพาไปถึง 90 % พืชได้ใช้เพียง 10 % แต่เมื่อใส่สารกลุ่มนี้ สารจะมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวก (แค็ทไออ้อนเอ๊กซ์เช้นจ์คาพาซิตี้) ที่สูงมาก. จะจับปุ๋ยประจุบวกไว้ทั้งแอมโมเนียม และโปแตสเซียมให้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้า. จึงทำให้ใช้ประโยชน์จากปุ๋ยได้ถึง 90% และถูกชะพาไปกับน้ำสูญเปล่าเพียง 10 %
7.ทำลายสารพิษในดินและในน้ำ สารพิษตกค้างที่มีผลในการลดการเจริญของพืชมักเป็นสารกำจัดวัชพืช เมื่อใส่ภูไมท์หรือสารในกลุ่มนี้แล้วสารพิษจะถูกทำลายหรือถูกจับตรึงจนออกฤทธิ์ไม่ได้ แม้สารชะลอการเติบโตชองพืช เช่น สารพาโคลบิวทราโซลที่ตกค้างในดินก็ถูกทำลายเช่นกัน จึงทำให้พืชโตดีเป็นปรกติ
8.ช่วยปรับ C:N ratio ให้พืช ดินที่มีไนโตรเจนตกค้างมาก,ละลายน้ำง่าย พืชดูดง่าย ทำให้เจริญทางใบมาก หรือเผือใบ เป็นโรคง่าย ออกดอกยาก ผลแก่ช้า รสฝาด หรืออมเปรี้ยว. ถ้าหว่านภูไมท์หรือไคลน็อพติโลไลท์หรือสารในกลุ่มนี้จะจับไนโตรเจนไว้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้า พืชดูดไนโตรเจนได้น้อยลง ทำให้ซีเอ็น เรโช กว้างขึ้น พืชมีสัดส่วนคาร์โบฮัยเดรทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ออกดอกง่าย และผลผลิตคุณภาพดีขึ้น ลดอาการเผือใบได้มาก.
9.เพิ่มคุณภาพผลผลิต จาการมีซิลิก้าที่ผิวพืชมากขึ้นทำให้พืชผัก แข็ง กรอบ อร่อยขึ้น เก็บรอการขายได้นานขึ้น ช้ำน้อย คุณภาพสูงขึ้นแทบทุกด้าน ยกเกรดของสินค้าให้สูงขึ้น ราคาก็ดีขึ้นด้วย. แม้ผลไม้ก็มีคุณภาพดีขึ้นเช่นกัน.
10.ลดแมลงและไส้เดือนฝอยในดิน ใช้ภูไมท์หว่านบาง ๆลงบนดินบริเวณที่มีมด ปลวก เสี้ยนดิน ตัวอ่อนของด้วง หมัดกระโดด ไส้เดือน ไส้เดือนฝอย หอยบก ก็จะลดศัตรูพืชเหล่านี้ให้ลดน้อยลงจนไม่เกิดปัญหาอีก.
11.กรณีที่ใช้ภูไมท์มากเกินไป เนื่องจากภูไมท์และสารในกลุ่มมีคุณสมบัติในการจับปุ๋ยให้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้า. ถ้าใส่ลงดินมากเกินไปจะจับปุ๋ยมากจนไม่พอใช้สร้างความเจริญเติบโตปรกติของพืช. พืชจะแสดงอาการขาดไนโตรเจนมีอาการเหลืองซีด. แก้ไขโดยการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น 46-0-0, 21-0-0, 5-0-0 เป็นต้น ใส่ปุ๋ยและรดน้ำ พืชก็กลับเขียวขึ้นตามเดิม.
12.การใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ สามารถใช้ภูไมท์ 1 ส่วนผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ 10 ส่วน, คลุกผสมแล้วหว่าน กระจายลงผิวดินที่ปลูกพืช, จะได้ผลของภูไมท์ตามที่ต้องการ, ในขณะเดียวกันก็ยังทำให้ดินดีขึ้นจากการมีอินทรีย์วัตถุมากขึ้นด้วย.
13.การคลุกเมล็ด ใช้เมล็ดข้าวโพดที่แช่น้ำมาก่อน, เมล็ดข้าวที่หุ้มพอเริ่มงอก,เมล็ดพืชอื่น ๆที่จะปลูก, เอาขึ้นมาทิ้งให้สะเด็ดน้ำ,ยังพอชื้น ๆอยู่ จำนวน 5 ส่วน. เอามาคลุกผสมภูไมท์ 1 ส่วน, แล้วจึงนำไปปลูกตามปรกติ กล้าที่งอกออกมาจะแข็งแกร่งต้านทานต่อเพลี้ย หนอน ไร ราและหอยดีขึ้น.
14.ใช้จับกลิ่นเหม็นจากคอกสัตว์ หว่านซีโอไลท์-สเม็คไทต์ลงบนพื้นคอกและหว่านทับลงบนมูลสัตว์,กลิ่นมูลสัตว์ก็จะถูกจับตรึงไว้จนหมดกลิ่นเหม็น,หว่านเพิ่มเติมอีกเมื่อมีมูลสัตว์เพิ่ม และเริ่มมีกลิ่นอีก. มูลสัตว์เหล่านี้เมื่อนำไปใช้บำรุงดินก็เป็นปุ๋ยที่ดีเป็นพิเศษคือ ไม่มีหนอนและทำให้พืชแข็งแรงโดยไม่ต้องพ่นสารพิษทางการเกษตรอีกด้วย.
15.ใช้ทำลายสารพิษตกค้างในอาหารสัตว์ ผสมภูไมท์ผง 3 ส่วนลงในอาหารสัตว์ 97 ส่วน,ให้สัตว์กินตามปรกติ อัตราการตายของ หมู เป็ด ไก่ ลดลง,มีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น. เพราะภูไมท์ช่วยทำลายสารพิษที่ตกค้างอยู่ในวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้หมดพิษไป. ผลพลอยได้คือมูลสัตว์ก็มีกลิ่นเหม็นน้อยลง.
16.ใช้เพิ่มผลผลิตเห็ด ใช้ภูไมท์หรือซีโอไลท์-สเม็คไตท์ชนิดผง 3 ส่วน, ผสมในขี้เลื่อยหรือวัสดุดิบเพาะเห็ด 97 ส่วน ไม่ต้องใช้จิบซั่มและปูนขาว นำไปเพาะเห็ดตามปรกติ. ส่วนในเห็ดฟางกองเตี้ยนั้นเมื่อเมื่อทำกองเสร็จ ครั้งสุดท้ายแล้ว , ใช้ภูไมท์หรือซีโอไลท์-สเม็คไตท์ผง 200-300 กรัม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น